วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

หงไฮเอ๋อ








 
 หงไฮเอ๋อ


หงไฮเอ๋อ (ภาษาจีนกลาง) หรือ อั่งฮาหยี เป็นบุตรของ อ๋องควาย กับ องหญิงพัดเหล็ก องค์หญิงพัดเหล็กอยากมีบุตรจึงไปขอกับเจ้าแม่กวนอิมว่า ขอบุตรชายแล้วนางจะกินเจให้ เจ้าแม่กวนอิมเห็นว่านางตั้งใจจริงจึงประทานบุตรมาให้ ชื่อว่า หงไฮเอ๋อซึ่งสามารถพ่นไฟได้ มีผ้าแพร(จะเล่าตอนท้ายว่าที่มาของผ้าแพรเป็นมายังไง) รองเท้าขิงของพ่อสามรถเหอะเหินเดินบนอากาศได้ มีล้อไฟบรรไรกรรณ (ของหลี่โหลอเชียเป็นหงไฟกับหงลมคนละอัน กับ อั่งฮาหยี) มีทวนเป็นอาวุธ และต่อมาพระธังสำจังจะไปอันเชินพระไตรปิฎก และจำเป็นต้องผ่านทางหุบเขาที่ร้อนระอุด้วยไฟของนรก และพระภูมิเจ้าที่ได้บอกว่ามีทางเดียวที่จะผ่านไปได้คือต้องไปยืมพัดเหล็กขอ งองหญิงพัดเหล็กมาพัด ธังสำจังจึงบอกกับลิงว่าให้ไปยืมพักจางองหญิงพัดเหล็กมาแต่พอลิงไปถึง และขอยืมพัดองหญิงพัดเหล็กก็ได้ต่อว่าดุด่าว่าเป็นแค่ลิงกล้ามาขอพัดจากนาง นางจึงโบกพัดทำให้ลิงปลิวไปไกลหลายหลี้ ลิงกลับมาใหม่แล้วแปลงกายเป็นอ๋องควาย แล้วขอยืมพัดนาง นางก็ให้แต่โดยดี เป็นจังหวะเดียวที่อ๋องกระทิงกลับมาพอดี จึงได้สู้ลบกันลิงจึงโบกพัดทำให้อ๋องความกับองหญิงพัดเหล็กปลิวไป พออั๋งฮาหยี่มาเห็นจึงได้สู้กันอั่งฮาหยี่พ่นไฟจนทำให้ลิงตาบอด และอั่งฮาหยี่ได้พัดกลับคืนมาด้วยความที่โกรธยังไม่หายจึงได้ออกกลอุบายหาวิ ธิจะจับธังสำจังกัน เมื่อเจ้าแม่กวนอิมได้รู้ข่าวจึงให้ดอกวักับธังสำจังให้ไปวางในหนองน้ำ พออั่งฮาหยี่พ่นได้เด็นดอกบัวที่ใหญ่มากด้วยความที่เป็นเด็ก และไม่เคยเห็นดอกบัวที่ใหญ่มากจึงกระโดขึ้นไปเล่น แล้วดอกบัวก็หุบเหลือแต่หัว ข่างในดอกบัวร้อนดั่งไฟนรมแผดเผา เจ้าแม่กวนอิมก็ลงมาบอกว่าสำนึกผิดหรือยัง เจ้าแม่กวนอิมสั่งสอนจนอั่งฮาหยี่สำนึกพิดและยอมที่จะขึ้นสวรรค์ไปเป็นศิจ เจ้าแม่กวนอิม และได้ทำพิธีเดินสามก้าวแล้วขุกเข่าขอคมาต่อสิ่งที่ตนได้ล้วงเกิน (ภาษาจีนว่าอะไรแล้วก็ไม่รู้แล้วจะหามาให้) จนขึ้นสวรรค์ไปและได้เปลี่ยนชื่อเป็น เซียนจ่ายต่องจือ แปลว่า รู้บรรลุขั้นเซียน และได้ศึกษาเล่าเรียนวิชากับเจ้าแม่กวนอิมจนบรรลุอีกขั้นชื่อว่า หยีนหยีไท่จือ แปลว่า เทพบุตรที่รู้แจงเรืองสวรรค์ แล้วผ้าแพร อะที่จริงมีไม่กี่องหลอกครับที่มี เทพที่ได้ผ้าแพร ก็คือ เทพที่เกิดเป็นเทพโดยกำเนิดไม่ได้บำเพ็นเพียนจนเป็นเทพถึง แต่สมัยนี่พระเกีอบทุกองค์มีผ้าแพรกันหมดแล้วอันนี้ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน อั่งฮาหยี่มีทั้งหมด 73 ป้าน มีชื่อตอยมาเกิดเป็นลูกของ อ๋องควาย กับ องค์หญิงพัดเหล็ก คือ ชื่อจริงคือ อั่งหยี่ไท่จื้อ แปลว่า เทพบุตรกายสีแดง ตั่งตามสีผิวของแก และชื่อเล่นคือ อั่งฮาหยี่ อั่งฮาหยีเป็นเพื่อน กับ หลี่โหลเฉีย และเคยสู้ลบกับ ลิง,เอี่ยวเจี้ยน หรือเทพสามตา

วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ประวัติเจ้าแม่กวนอิม




พระโพธิสัตว์กวนอิม

 พระ โพธิสัตว์กวนอิม (ประสูติ 19 เดือนยี่จีน) ชาติสุดท้ายเป็น ราชธิดานาม เมี่ยวซ่าน เดิมเป็นเทพธิดา มาจุติยังโลกมนุษย์เพื่อมาช่วยปลดเปลื้องทุกข์ภัยแก่มวลราชธิดาองค์สุดท้าย ของกษัตริย์ เมี่ยวจวง ซึ่งมีราชธิดา 3 องค์ องค์โตชื่อ เมี่ยวอิม องค์รองชื่อ เมี่ยวหยวน เยาว์วัยเป็นพุทธมามกะ รู้แจ้งในหลักธรรมลึกซึ้ง ตั้งพระทัยแน่วแน่จะบำเพ็ญเพื่อหลุดพ้นสังสารวัฏ ออกบวชวันที่ 19 เดือน 9 พระเจ้าเมี่ยวจวงไม่เห็นด้วย จะบังคับให้เลือกราชบุตรเขย เพื่อจะได้สืบทอดราชบัลลังก์ต่อไป แต่เจ้าหญิงเมี่ยวซ่านไม่สนพระทัยเรื่องลาภ ยศ สรรเสริญ อันจอมปลอม แม้จะถูกพระบิดาดุด่าอย่างไร องค์หญิงก็ไม่เคยนึกโกรธเคืองแต่อย่างใด
ต่อ มาองค์หญิงสามได้ถูกขับไปทำงานหนักในสวนดอกไม้ เช่น หาบน้ำ ปลูกดอกไม้ ทั้งนี้เพื่อทรมานให้เปลี่ยนความตั้งใจ แต่ก็มีเหล่ารุกขเทวดามาช่วยทำแทนให้ทั้งหมด พระบิดาเมื่อเห็นว่าไม่ได้ผล จึงรับสั่งให้หัวหน้าแม่ชี นำองค์หญิงสามไปอยู่ที่วัดนกยูงขาว และให้เอางานของแม่ชีทั้งวัดมอบให้องค์หญิงทำคนเดียว แต่องค์หญิงมีพระทัยเด็ดเดี่ยว ไม่เกี่ยงงานการต่างๆ ก็มีเหล่าเทพารักษ์มาช่วยทำแทนให้อีก พระเจ้าเมี่ยวจวงเข้าพระทัยว่า พวกแม่ชีไม่กล้าเคี่ยวเข็ญใช้งานหนัก ก็ยิ่งทรงกริ้วหนักขึ้น สั่งให้ทหารเผาวัดนกยูงขาวจนวอดเป็นจุณไป พร้อมกับพวกแม่ชีทั้งวัด มีแต่เจ้าหญิงเมี่ยวซ่านเท่านั้นที่ปลอดภัยรอดชีวิตมาได้
พระ เจ้าเมี่ยวจวงทรงทราบดังนั้น จึงรับสั่งให้นำตัวราชธิดาไปประหารชีวิต เทพารักษ์คอยคุ้มครองเจ้าหญิงอยู่ โดยเนรมิตทองทิพย์เป็นเกราะห่อหุ้มตัว คมดาบของนายทหารจึงไม่อาจระคายพระวรกาย ดาบหักถึง 3 ครั้ง 3 ครา พระบิดาทรงกริ้วยิ่งนัก โดยเข้าพระทัยว่านายทหารไม่กล้าประหารจริง จึงให้ประหารนายทหารแทน แล้วรับสั่งให้จับเจ้าหญิงไปแขวนคอ ทว่าผ้าแพรที่แขวนคอก็ขาดสะบั้นลงอีก
ทัน ใดนั้นปรากฏมีเสือเทวดาตัวหนึ่งได้นำเจ้าหญิงขึ้นพาดหลังแล้วเผ่นหนีไปที่ เขาเซียงซัน ต่อมา เทพไท่ไป๋ได้แปลงร่างเป็นชายชรามาโปรดเจ้าหญิง ชี้แนะเคล็ดวิธีการบำเพ็ญเพียรเครื่องดับทุกข์ จนสามารถบรรลุมรรคผลสำเร็จธรรม วันที่ 19 เดือน 6 ข้างฝ่ายพระบิดาเข้าพระทัยว่า เจ้าหญิงถูกเสือคาบไปกินเสียแล้ว จึงไม่ได้ติดใจตามราวีอีก
ต่อ มาไม่นานบาปกรรมที่พระองค์ก่อไว้ส่งผล เกิดป่วยด้วยโรคร้ายแรง ไม่มียารักษาให้หายได้ เจ้าหญิงเมี่ยวซ่านได้ทรงทราบด้วยญาณวิถีว่า พระบิดากำลังประสบเคราะห์กรรมอย่างหนัก ด้วยความกตัญญูกตเวทีเป็นเลิศ มิได้ถือโทษโกรธการกระทำพระบิดาแม้แต่น้อย ทรงได้สละดวงตาและแขนสองข้าง เพื่อรักษาพระบิดาจนหายจากโรคร้าย ว่ากันว่า ภายหลังสำเร็จอรหันต์ ได้ดวงตาและพระกรคืน เคยแสดงปาฏิหารย์เป็นปางกวนอิมพันมือ องค์หญิงเมี่ยวซ่านนั้น ตอนแรกเป็นชาวพุทธ ตอนหลังเทพไท่ไป๋ได้มาโปรด ชี้แนะหนทางดับทุกข์ เหตุนี้พระโพธิสัตว์กวนอิมจึงเป็นเทพทั้งฝ่ายพุทธและฝ่ายเต๋าในเวลาเดียวกัน